ต้นกำเนิดของความพิเศษแห่งน้ำมะนาว
น้ำมะนาว ทำหน้าที่ล้างสิ่งปฏิกูลในร่างกาย และเสริมสร้างส่วนที่มาแทนที่เป็นสิ่งที่มีคุณสมบัติที่แสนวิเศษปลอดภัย เป็นที่รู้จักแก่มวลมนุษย์โลกว่ามีคุณค่าทางอาหารสูง มีวิตามินหลายชนิด และหารับประทานได้ตลอดปี จะใช้ในฤดูกาลใดกับคนส่วนไหนของโลก แทบจะไม่มีปัญหาใด ๆ เลย หาง่าย ราคาถูก และมีคุณสูงมาก ใช้รักษาโรคได้มากมายหลายชนิด
ข้อดีข้อแรกของน้ำมะนาว คือ ใช้รักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร เป็นที่ยอมรับกันกว่า 40 ปีแล้ว นายบ๊อบ นอร์แมน เป็นผู้ร่วมวิจัยและค้นพบกับผู้เขียนเองในเรื่องนี้ วันหนึ่งไม่นาน ก่อนที่ข้าพเจ้าจะพบกับบ๊อบ ข้าพเจ้าเกิดแรงดลใจเขียนรายงานบันทึกเกี่ยวกับการรักษาแผลในกระเพาะอาหารให้หายให้ในเวลา 10 วัน ข้าพเจ้าเขียนอย่างละเอียดทุกแง่มุม และจากนั้นก็รอผลการทดสอบ
บ๊อบ นอร์แทน ทนทุกข์ทรมานด้วยโรคแผนในกระเพาะอาหารมาเป็นเวลานานถึง 3 ปี ระหว่างนั้นเขาพยายามทุกวิถีทาง เพื่อทำให้เขาพ้นทุกข์ได้ แต่ไม่มีสิ่งใดเลย ไม่ว่าจะเป็นยาหรือการรักษาชนิดใดที่จะทำให้หายขาด นอกจากช่วยบรรเทาความทรมานได้เพียงบางครั้งบางคราว เขาจะต้องทานอาหารในทุก ๆ 2 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นเขาจะเจ็บปวดทรมานจนทนไม่ได้บางทีเป็นเวลา 3 เดือนติดกัน ที่เขาดื่มเพียงนมแพะเท่านั้นที่เป็นอาหาร หมอต้องการที่จะทำการผ่าตัดให้เขา แต่เขาปฏิเสธ เขาไม่เห็นด้วยกับการรักษาทางลัดเช่นนั้น เขายินดีกลับไปตายที่บ้านมากกว่าได้รับการผ่าตัด แต่เขาก็คิดว่าจะต้องมีทางอื่นที่ดีกว่านั้น ถ้าข้าเจ้าพอที่จะช่วยเขาได้ เพราะชีวิตเริ่มจะไม่มีค่าอะไรแล้วในสภาวการณ์เช่นนี้ เขากล่าว
สาเหตุของแผลในกระเพาะ ก็เริ่มมาจากการที่มีโซเดียมพอกติดกับผนังภายในของกระเพาะ และถ้ามันคงพอกหนาขึ้นมันก็จะไปจัดขวางน้ำย่อยไม่ให้มาย่อยอาหารน้ำย่อยก็จะไปย่อยเอากระเพาะอาหารเอง อย่างไรก็ตาม เมื่ออาหารเนื้อไม่ว่าจะเป็นอะไรในรูปใด ตกไปถึงกระเพาะ เจ้าเนื้อทั้งหลายก็จะไปกระตุ้นโซเดียมในทางเดียวกันกับน้ำย่อยจากผนังกระเพาะ โซเดียมก็จะมาหุ้มอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ทุกชนิด น้ำย่อยจึงย่อยไม่ได้ แล้วก็เกิดการสะสมโซเดียมมากขึ้น
ถ้าผู้ป่วยยังคงบริโภคอาหารเนื้อสัตว์ต่อไป และข้อบกพร่องที่เกิดจากโซเดียมยังคงดำเนินอยู่ โดยที่โซเดียมยังมิได้ถูกกำจัดออกไปจากผนังกระเพาะอาหาร น้ำย่อยก็คงจะทำการย่อยกระเพาะต่อไป กระบวนการนี้เองที่เราเรียกว่า โรคกระเพาะอาหาร (Stomach ulcer) และการักษาระบบอื่นโดยทั่วไปย่อมล้มเหลวทั้งสิ้น
บางครั้งเนื้อสัตว์สามารถค้างอยู่ในกระเพาะได้นานกว่า 2 ชั่วโมงขึ้นไป โดยไม่ได้รับการย่อย เริ่มที่จะบูดเน่า การบดให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และย่อยเพื่อให้ร่างกายได้ดูดซึม ต้องผ่านลำไส้เล็ก เนื้อสัตว์ทุกชนิดร่างกายจะใช้เวลาย่อยนานกว่าผักพืชและผลไม้มาก อาหารพวกไก่และสัตว์ปีกจะใช้เวลานานที่สุดในการย่อย การที่เชื่อว่า เนื้อสัตว์เป็นสิ่งเสริมสร้างโปรตีนนั้นก็จริงอยู่ แต่มิได้หมายความว่าจะใช้การได้ทันทีสำหรับร่างกาย แต่สิ่งที่เป็น โปรตีนที่ใช้ได้ทันทีสำหรับร่างกาย กลับไม่ใช่เนื้อสัตว์
เมื่อเราพิจารณาดูแล้วจะพบว่า อาหารเนื้อสัตว์ทุกชนิด เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดสารพิษ และเป็นอาหารที่ร่างกายไม่ต้องการนำมาใช้บำรุงส่วนต่าง ๆ แต่อย่างใด การกินเนื้อสัตว์เราต้องคำนึงถึงผลได้ผลเสียแก่ร่างกาย ธรรมดาร่างกายของเราต้องได้รับการดูแลบำรุงรักษากำจัดของเสีย เมื่อเราเพิ่มอาหารเนื้อสัตว์ที่มีระบบกำจัดของเสียเช่นเดียวกันกับเรา (หรือสัตว์อาจถูกใช้ยา หรือสารเคมีอื่น ๆ ที่ยังค้างอยู่ในเนื้อ) ให้กับร่างกาย ย่อมจะไปเพิ่มงานให้กับร่างกายให้ทำงานหนักมากขึ้นไปอีกในทุกส่วน
ข้อควรจำ ก็คือ อาหารแข็งต้องถูกบดย่อยให้เป็นสารเหลว ก่อนที่จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อบำรุงร่างกาย อาหารเนื้อสัตว์ทุกชนิดจะใช้เวลาย่อยนานกว่า อาหารพืช ผัก ผลไม้ และมีประโยชน์น้อยกว่าด้วย
กลับเข้าเรื่องของเราอีกครั้ง หลังจากที่บ๊อบได้สาธยายเสียยาว ข้าพเจ้าก็ถามเขาว่า “ต้องการจะหายจากโรคกระเพาะภายในเวลา 10 วันไหม?” เขาตอบว่า “แน่นอนที่สุดข้าพเจ้าจึงยื่นรายงานบันทึกเกี่ยวกับการควบคุมอาหารให้เขา บ๊อบอ่านอย่างตั้งใจจนจบ แล้วยื่นกลับมาให้ข้าพเจ้า แล้วตอบกับข้าพเจ้าว่า เขาได้วนเวียนอยู่กับผู้ที่เชี่ยวชาญทางโรคนี้เป็นเวลากว่า 3 ปี ทุกคนบอก “ห้ามแตะต้องมะนาวเด็ดขาว เพราะมีกรดซีคริกอยู่ เขาทำไม่ได้” เพราะทั้งหมดที่ข้าพเจ้าให้เขาตาม เกี่ยวกับมะนาวทั้งสิ้น
แต่เมื่อการรักษาทั่วไปมิได้ทำให้บ๊อบดีขึ้น ข้าพเจ้าจึงบอกว่า อาจมีข้อผิดพลาด แม้ว่าสูตรน้ำมะนาวจะไปจัดกับความเชื่อของแพทย์และผู้รู้ทั่วไป (ซึ่งเป็นผู้ล้มเหลวในการรักษาบ๊อบ) สัญชาติญาณบอกผมว่า อาจจะสัมฤทธิ์ผลก็ได้ครานี้ ข้าพเจ้าแน่ใจว่า จะไม่ทำอันตรายให้กับเขา แม้ว่าจะรักษาไม่ได้ดังคิด แต่ต้องมีส่วนดีเกิดขึ้น ข้าพเจ้าจึงหว่านล้อมบ๊อบว่า ถ้าผู้เชี่ยวชาญถูกต้องแล้วละก้อ คงรักษาบ๊อบหายไปเสียตั้งแต่ 3 ปีก่อนแล้ว อาจจะเป็นได้ว่าในสิ่งที่เขาถูกห้ามโดยเด็ดขาด อาจเป็นสิ่งที่จะรักษาเขาได้ บ๊อบคิดอยู่พักใหญ่แล้วตอบว่า “เอาละผมจะลองดู แม้ว่ามันจะฆ่าผม แต่ผมก็กำลังจะตามอยู่แล้วมันจะแปลกอะไร” บ๊อบแน่ใจเหลือเกิดว่ามันจะต้องไร้ผล
หลักจาก 5 วันผ่านไป บ๊อบโทรมาหาผม แม้ว่าเขาจะไม่มีอาการเจ็บปวดตั้งแต่เริ่มแรกเขาก็ยังหวั่นอยู่ว่า ไอ้ตัวปวดมันจะกลับมารังความเขาอีก ก่อนนั้นเขาต้องกินอาหารทุก 2 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นจะปวดกระเพาะจนสาหัส แต่วานซืนเขาอยู่ได้ถึง 8 ชั่วโมง โดยไม่ได้กินและดื่ม ไม่เจ็บปวด แต่ก็ยังหวั่นใจอยู่ ข้าพเจ้าให้คำยืนยันว่า ถ้าเขาพิสูจน์มา 5 วัน โดยไม่มีการเจ็บปวด ต่อไปก็จะเป็นผลดีอย่างไม่มีปัญหา เพียงแต่ให้เขาทำต่อให้ครบ 10 วัน วันที่ 11 เขาไปหาแพทย์ประจำตัว แพทย์ยืนยันว่า โรคกระเพาะของเขาหายขาดแล้ว ไม่ต้องใช้คำอธิบายใด ๆ แพทย์ของเขามึนหยิ่ง เพราะได้ตรวจบ๊อบอย่างละเอียดครบถ้วน ทั้ง X-ray และยังจำได้ถึงคำแนะนำที่ตนให้กับบ๊อบถึงการงดอาหาร และการผ่าตัดซึ่งเป็นวิธีสุดท้ายที่จะช่วยบ๊อบให้รอดชีวิตได้
และยังมีอีกหลายรายในกรณีเดียวกันที่ประสบความสำเร็จ สามารถเอาชนะโรคกระเพาะอาหารนี้ได้ในเวลาเพียง 10 วัน ด้วยวิธีการเดียวกันนี้ ยังสามารถจัดระบบที่รวดเรอื่น ๆ ของร่างกายให้กลับสู่สภาพปกติได้ภายในเวลา 10 วัน เช่นกัน
ป้ายกำกับ
- คำนำ (1)
- ธรรมมะ (5)
- เรื่องน่ารู้ (9)
- สุขภาพ (18)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น